เกมเดิมพันในคาสิโนออนไลน์ตั้งแต่อดีตมาถึงปัจจุบันมีเยอะมากให้นักพนันและเสี่ยงโชค แต่เมื่อไม่นานมานี้มีการเดิมพันในรูปแบบไพ่มาใหม่ในคาสิโนออนไลน์ ที่ชื่อว่า ไพ่เสือมังกร ได้รับการตอบรับจากนักพนันเป็นอย่างดี มีผู้เล่นให้ความสนใจเป็นจำนวนมากมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง เนื่องจากเกมเดิมพันเสือมังกรนั้นเป็นเกมที่เล่นไม่ยาก และมีโอกาสได้เสียกันเร็ว จึงทำให้นักพนันส่วนใหญ่ติดอกติดใจ โดยผู้เล่นสามารถที่จะอาศัยเวลาว่างในช่วงพักจากงานประจำก็สามารถที่จะเข้ามาเสี่ยงโชคได้
ไพ่เสือมังกร มีลักษณะและวิธีในการเล่นอย่างไร
- ภายในโต๊ะคาสิโนหรือห้องในคาสิโนออนไลน์ แต่ละห้องนั้นจะมีดีลเลอร์สาวสวยในชุดบิกินี่สุดเซ็กซี่ คอยให้บริการการแจกไพ่ให้กับผู้เล่น 1 คน โดยจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตลอดเวลาเป็นรอบๆ
- การเล่นไพ่เสือมังกร 1 โต๊ะ จะใช้ไพ่ในการเล่นทั้งหมด 6-8 สำรับนำมารวมกัน และหลังจากนั้นดีลเลอร์จะทำการสับไพ่ด้วยเครื่องสับไพ่อัตโนมัติ และเริ่มแจกไพ่เป็นรอบๆ จนกว่าไพ่ที่มีทั้งหมดจะหมดลง
- ผู้เล่นจะมีระยะเวลาในการเดิมพันก่อนที่ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ โดยระยะเวลาในการเดิมพันนั้นจะประมาณ 20 ถึง 30 วินาที ผู้เล่นจะต้องเดิมพันก่อนที่เวลาจะหมดลงหลังจากนั้นผู้เล่นจะต้องกดยืนยันเดิมพันด้วย
- เมื่อผู้เล่นเดิมพันเสร็จเรียบร้อยแล้วดีลเลอร์สาวสวยจะทำการแจกไพ่ฝั่งละ 1 ใบ ให้กับฝั่งมังกรและฝั่งเสือ เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ดีลเลอร์สาวสวยจะทำการเปิดไพ่ของทั้งสองฝั่งออกเพื่อดูผลแพ้ชนะ
- ถ้าหากผู้เล่นเดิมพันผลที่จะออกมาถูก พูดเล่นก็จะได้รับเงินเดิมพันตามเกณฑ์ที่ไพ่เสือมังกรได้กำหนดไว้ โดยระบบอัตโนมัติของเว็บไซต์จะเป็นคนคำนวณเครดิตหรือตัวเงินให้กับผู้เล่น โดยที่ผู้เล่นไม่ต้องคิดเอง
ไพ่เสือมังกรเดิมพันรูปแบบไหนได้บ้าง
1.เดิมพันแบบวัดผลแพ้ชนะของแต้มฝั่งเสือและฝั่งมังกร
การเดิมพันแบบนี้นั้นเป็นการเดิมพันที่ง่ายที่สุด โดยผู้เล่นจะวัดผลแพ้ชนะจากแต้มของทั้งสองฝั่ง ว่าฝั่งของใครมีแต่มากกว่ากัน หากฝั่งไหนที่มีแต้มมากกว่าแล้วผู้เล่นเดิมพันถูกผู้เล่นก็จะเป็นฝ่ายชนะและได้รับเงินเดิมพัน โดยในการนับแต้มไพ่เสือมังกรนั้นก็จะมีดังต่อไปนี้
- ไพ่คิง K จะมีแต้มเท่ากับ 13 แต้ม (โดยจะเป็นไพ่ที่ใหญ่ที่สุด)
- ไพ่แหม่ม Q จะมีแต้มเท่ากับ 12 แต้ม
- ไพ่แจ๊ค J จะมีแต้มเท่ากับ 11 แต้ม
- ไพ่ 10 จะมีแต้มเท่ากับ 10 แต้ม
- ไพ่ 9 จะมีแต้มเท่ากับ 9 แต้ม
- ไพ่ 8 จะมีแต้มเท่ากับ 8 แต้ม
- ไพ่ 7 จะมีแต้มเท่ากับ 7 แต้ม
- ไพ่ 6 จะมีแต้มเท่ากับ 6 แต้ม
- ไพ่ 5 จะมีแต้มเท่ากับ 5 แต้ม
- ไพ่ 4 จะมีแต้มเท่ากับ 4 แต้ม
- ไพ่ 3 จะมีแต้มเท่ากับ 3 แต้ม
- ไพ่ 2 จะมีแต้มเท่ากับ 2 แต้ม
- ไพ่ 1 A จะมีแต้มเท่ากับ 1 แต้ม
2.เดิมพันสีของหน้าไพ่ของหน้าไพ่ฝั่งเสือและหน้าไพ่ฝั่งมังกร
การเดิมพันไพ่เสือมังกรแบบนี้นั้นผู้เล่นสามารถทำได้ไม่ยาก โดยไพ่ที่มีทั้งหมดจะมีอยู่ 4 หน้าหรือ 4 ดอก นั่นคือ โพธ์ดำ โพธ์แดง ข้าวหลาม และดอกจิก ซึ่งทั้ง 4 ดอกนี้จะมีเพียงแค่ 2 สีเท่านั้น คือสีดำ และสีแดง โดยที่สีดำนั่นคือ โพธ์ดำ และดอกจิก ส่วนสีแดงนั้นคือ โพธิ์แดงและข้าวหลาม
3.เดิมพันจำนวนคู่และคี่ของหน้าไพ่ของฝั่งเสือและฝั่งมังกร
โดยหน้าไพ่ทั้งหมดก็จะนับตามตัวเลขที่อยู่หน้าไพ่ได้เลยทันที โดยที่จะแตกต่างออกไปก็ตรงที่ ไพ่ K จะนับเป็นเลขคี่ เพราะไพ่ K เท่ากับ 13 แต้ม ไพ่ Q จะนับเป็นเลขคู่ เพราะไพ่ Q เท่ากับ 12 แต้ม ไพ่ J จะนับเป็นเลขคี่ เพราะไพ่ J เท่ากับ 11 แต้ม
4.เดิมพันไพ่เสือและไพ่มังกรจะออกเสมอกัน
เป็นการเดิมพันว่าหน้าไพ่ของฝั่งเสือและฝั่งมังกรจะออกมามีแต้มที่เท่ากัน โดยการเดิมพันไพ่เสือมังกรแบบนี้จะมีอัตราการจ่ายรางวัลสูงสุดในไพ่เสือมังกร ยกตัวอย่าง การเสมอกันเช่น ไพ่ฝั่งเสือเปิดมาได้ 7 แต้ม โดยที่เป็นดอกอะไรก็ได้ และไพ่ฝั่งมังกรเปิดมาได้ 7 แต้ม โดยที่เป็นดอกอะไรก็ได้เช่นกัน อีกหนึ่งตัวอย่างเช่น ถ้าไพ่ของฝั่งมังกรนั้นเป็น K ไพ่ของทางฝั่งเสือนั้นก็เป็น K โดยที่เป็นดอกอะไรก็ได้ ก็จะถือว่าทั้งสองฝั่งนั้นเสมอกัน
เกมเดิมพันไพ่คุณภาพสูงใช้เวลาในการเล่นน้อย เกมเดิมพันไพ่เสือมังกร เดิมพันยอดนิยมที่ผู้เล่นสามารถเล่นได้ตลอดเวลาอย่างไม่จำกัด สามารถฝากถอนในระบบออโต้ที่หน้าเว็บ bifroz โดยที่ไม่ต้องผ่านเอเย่นต์ ไม่จำกัดจำนวนครั้งในการฝากและถอน ทำได้ตลอดเวลา ทุกธนาคาร สำหรับใครที่ชอบเกมเดิมพันที่มีความเสี่ยงน้อยสร้างรายได้รวดเร็ว ต้องไม่ควรพลาดเด็ดขาด ความสนุกและตื่นเต้นกำลังรอท่านอยู่ สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่สมัครสมาชิกวันนี้รับโบนัสฟรี ชวนเพื่อนรับคอมมิชชั่นฟรีไม่จำกัด